การตื่นขึ้นของศรัทธาเนื่องในชาตกาล ๑๐๐ ปีของพันธุ์ อินทะผิว

บทความ อ.โกวิท เอนกชัย (เขมานันทะ) 


    ขอนอบน้อมแด่สาธุชนผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย

    สำหรับคนขยันมีวิริยะภาพนั้น วันทุกวันเสมอกันในกิจภาวนา มันพิเศษตรงที่ว่าบุคคลใดถือกำเนิดมาแล้วก่อเกิดประโยชน์สุขสันติสุขแก่มวลมนุษย์ ครั้งท่านจากไปโลกได้อะไรสูญเสียอะไร วันเช่นนั้นถือว่าเป็นวันดีเพราะเป็นวันแห่งการเตือนสติและเพิ่มกำลังใจในการเจริญภาวนา

    อีกทั้งผู้ภาวนานั้น ถึงตาจะบอด หูจะหนวก ขาจะเสีย ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะอาภัพ แต่สภาพเช่นนี้หาได้เป็นอุปสรรคของการภาวนาแต่อย่างใด ถึงหูหนวก ตาบอด เป็นใบ้ แต่ย่อมไม่อาจกางกั้นไม่ให้รู้สึกตัวได้ ดังที่พระศาสดาสัมมาสัมพุทธะทรงตรัสว่า “เราสอนธรรมแก่ผู้ที่รู้สึกตัวได้” นับว่าเป็นวาสนาสำหรับชาวเราอดีตสยามประเทศที่เกิดเป็นไทและพบพระพุทธศาสนาในดินแดนที่ร่องรอยแห่งความรู้สึกตัวถูกระบุถึงแม้ในชีวิตประจำวันคือวลี “รู้สึกตัว” (สวสํเวทนา) และมันได้ถูกพิสูจน์ความถูกต้องผ่านวาทะของพันธุ์ อินทะผิว

    ในฐานะศิษย์ร่วมสำนัก ผมจะขอกล่าวธรรมิกถาโดยตั้งเป็นคำถามความในใจต่อศิษยานุศิษย์ กระทั่งผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในวาระ ๑๐๐ ปีชาตกาลของพระพันธุ์ อินทะผิว หรือที่ใคร ๆ รู้จักท่านในนามหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ ดังนี้ว่า เราเริ่มภาวนาแบบเล่น ๆ ที่พระพันธุ์ อินทะผิวสอนไว้ เป็นแล้วหรือยัง

    ท่านสอนวิปัสสนาแบบเคลื่อนไหว ยกมือเป็นจังหวะและดูความคิด จับความรู้สึกตัวสด ๆ การเปลี่ยนแปลงอันเป็นเพียงอาการไหวตัวของวัตถุภายในอย่างแนบแน่น การสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่แผ่วเบาอันนี้มีความสำคัญใหญ่หลวง มันคือการเปลี่ยนแปลงโลก ทั้งของปัจเจกและโลกโดยรวม เมื่อการไหวตัวของคลื่นใต้น้ำสมทบกับคลื่นที่ผิวน้ำเป็นเอกภาพ สังสารจักรก็ถูกลบลางเลือน

    เราอยู่ในโลกของความมีความเป็น จึงไม่อาจเข้าใจโลกแห่งความไม่มีไม่เป็น และเพราะเราอยู่ในโลกของวัตถุที่หนาทึบ เราจึงเข้าใจทะลุปรุโปร่งในโลกของความเบาบางไม่ได้ โลกของความมีบังเกิดแล้วก็บดบังโลกของความไม่มีสิ้น

    แทบจะกล่าวได้ว่า ในการปฏิบัติกิจภาวนานั้น เราไม่ต้องทำอะไรเลยเพียงอนุญาตให้กระแสคลื่นความคิดไหลไป เมื่อมันสงบหรือปั่นป่วนด้วยคลื่นอารมณ์ก็ให้เป็นเรื่องของมัน เราไม่มีภาระอะไร ประสบการณ์ของความปั่นป่วนรวนเรนั้นเองจะบอกเล่าสภาพทุกข์ยากของชีวิตอย่างตรงไปตรงมา แล้วเราก็จะเจริญขึ้นในอริยสัจจ์ธรรม ไม่เป็นไปโดยประการอื่น เราจะเห็นมันต่อเมื่อเราได้ฐานเป็นพลังแห่งความสดใหม่ คือความรู้สึกตัวเบาบางแต่ว่าชัดเจนพอให้รู้ได้ของชีวิต

    มีอะไรบางอย่างในจิตใจของมนุษย์เรา ที่เหมือนนกมีปีกไว้บินและร่อนอย่างอิสระ ทว่าปีกคู่นั้นถูกจำกัดขอบเขตจนความสามารถในการบินหมดเรี่ยวแรง ความรู้สึกตัวที่แผ่ไปในอนันต์คือปีกแห่งอิสรภาพไม่รู้สิ้นสุด

    การเคลื่อนไหวทางปัญญานั้นอ่อนไหวว่องไวยิ่ง นับวันมันทำความเข้าใจอะไรได้อย่างรวดเร็วจึงถูกเรียกชื่อว่าเป็นปรีชาญาณหรือญาณของปัญญา โดยปราศจากความคิดกางกั้น

    เราจะถวายกิจภาวนาเป็นเครื่องสักการะด้วยใจจริงไม่ใช่การกระทำตามทางพิธีกรรมเพื่อให้ดูเป็นงานเอิกเกริก เราต้องปลุกใจให้ตื่นตระหนัก ผ่านการโพลงตัวอย่างระมัดระวังที่จะไม่ยึดถือผลเป็นความสงบนิ่งอย่างนักพรตอุทกะและอาฬาระ ผู้เรืองปัญญาทว่าขาดความเฉลียวใจ (ขาดการเอะใจ)

    หัวใจของนักภาวนาต้องไม่ดายนิ่งอยู่กับที่ มันเป็นเช่นนั้นมาหลายเวลาเกินไป ก้าวต่อไปข้างหน้าหรือถอยหลังทำให้เรารู้จักตัวเองได้ดีกว่าสงบนิ่ง อันเราไม่เขยื้อนศรัทธาในภาคภาวนา เราอย่ามัวเดินจงกรมอย่างเลื่อนลอยหรือเอาเป็นเอาตาย แต่เราได้ก้าวข้ามพ้นการเดินและกิริยาทั้งหมดของชีวิตอย่างผ่อนคลาย จุดหมายปลายทางไม่ใช่ถึงได้โดยความอยากของเราหรือของใคร ๆ แต่เราต้องการความรู้แจ้งประจักษ์โดยไม่เกี่ยวข้องกับพระนิพพาน แต่ปรารถนาพระโพธิญาณเพื่อช่วยค้ำจุนโลกตามทางปรารถนาอันแรงกล้าของพันธุ์ อินทะผิว

    แรงดลใจของพระพันธุ์ อินทะผิว ภายหลังแต่บวชแล้วปรากฏต่อศิษย์ทั้งพระและคฤหัสถ์อย่างต่อเนื่อง กล่าวได้ว่าเป็นพลังตามปกป้องศรัทธาต่อกิจภาวนาอยู่อย่างเงียบ ๆ เนื่องแต่สภาพรู้สึกตัวเป็นสิ่งเบาบางราวกับซ่อนตัว ครั้นเวลาได้มาถึง จึงเปิดเผยธรรมชาติของความเบาบางนั้นให้ประจักษ์ในทันใด ดั่งนักโบราณคดีหลงค้นพลิกแผ่นดินเพื่อหาแผ่นดินที่คิดว่าหายไป หลายครั้งที่ผมเห็นอาการเสมือนว่าร้อนรนในการเร่งเดินทางไปให้ทันการติดอารมณ์ของศิษย์ ความกระวนกระวายต่อผลได้ของศิษย์ผู้เพียรภาวนาโดยไม่เยื่อใยต่อสุขภาพของตัวเอง รวมทั้งการตามเจือจุนความเป็นอยู่และคำแนะนำเคล็ดการภาวนาเฉพาะราย ดูเหมือนว่างานปลุกดวงจิตผู้คนให้ตื่นของพันธุ์ อินทะผิว จะเป็นเกมส์การละเล่นสำหรับท่านและผู้ดูที่ดูออกดูเป็นแลเห็นอย่างง่ายดาย

    พันธุ์ อินทะผิวได้อุทิศตนตามวิถีทางธรรม คือเป็นกัลยาณมิตรของผู้ใฝ่ธรรมเสมอมา ตราบกระทั่งวันเวลาล่วงเลยอายุสังขาร ๑๐๐ ปีเต็ม ควรที่พวกเราจะเฉลิมฉลองชาตกาลนี้ด้วยปฏิบัติบูชาอันเป็นยอดสุดแห่งการบูชาอันพระพุทธเจ้าสรรเสริญ ผมขอร่วมอนุโมทนาต่อกุศลสำนึกนี้ของท่านทั้งหลายด้วยใจจริง

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้สันติธรรมแผ่กำจายทั่วประเทศและทั่วโลก ขอความรู้สึกตัวล้วน ๆ จงปรากฎเป็นพรประเสริฐ ขอลมเย็น ๆ พัดต้องกายผู้ภาวนาและรู้สึกได้ทันใดในการไหวตัวของอินทรีย์ อันเป็นผลของการฝึกปรือการภาวนาแบบเคลื่อนไหว กล่าวคือก่อนที่ความคิดจะฉุดคร่าสติไปตามทางของมัน เราชิงลงมือทันที

    ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ทุกท่านเทอญ

    โกวิท เอนกชัย (เขมานันทะ)
    ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓


กลับสู่ด้านบนของเว็บนี้

กลับสู่หน้าเว็บหลัก โตสื่อพระธรรม

1 ความคิดเห็น:

  1. How to bet on sports toto
    In the long term, this is still very easy to learn, thanks to the popularity of online sports betting, and it's not as 메이저 토토 사이트 easy as the betting on horses

    ตอบลบ